เมนู

พร้อมด้วยเวลาจบพระคาถา ฯ ล ฯ ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระ-
ผู้มีพระภาคเจ้าเป็นพระศาสดาของข้าพระองค์ ข้าพระองค์เป็นสาวก
ฉะนี้แล.
จบโตเทยยมาณวกปัญหานิทเทสที่ 9

อรรถกถาโตเทยยมาณวกปัญหานิทเทสที่ 9


พึงทราบวินิจฉัยในโตเทยยสูตรที่ 9 ดังต่อไปนี้.
บทว่า วิโมกฺโข ตสฺส กีทิโส วิโมกข์ของผู้นั้นเป็นเช่นไร
โตเทยยมาณพทูลถามว่า วิโมกข์ของผู้นั้นพึงปรารถนาเช่นไร. บัดนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงแสดงความไม่มีวิโมกข์อื่นแก่โตเทยย-
มาณพนั้น จึงตรัสคาถาที่ 2.
ในบทเหล่านั้น บทว่า วิโมกฺโข ตสฺส นาปโร คือ วิโมกข์
อย่างอื่นของผู้นั้นไม่มี. แม้เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ความสิ้นตัณหา
นั้นแลเป็นวิโมกข์ โตเทยยมาณพก็มิได้เข้าใจความนั้น จึงทูลถามอีกว่า
นิราสโส โส อุท อาสสาโน ผู้นั้นไม่มีความหวังหรือยังมีหวังอยู่.
ในบทเหล่านั้น บทว่า อุท ปญฺญกปฺปี หรือมีความก่อด้วยปัญญา
คือก่อตัณหาหรือทิฏฐิด้วยญาณมีสมาปัตติญาณเป็นต้น.
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้า เมื่อจะทรงบอกความนั้น แก่โตเทยย-
มาณพนั้น จึงกล่าวคาถาที่ 4.
ในบทเหล่านั้น บทว่า กามภเว คือ ในกามและในภพ. บทว่า
รูเป นาสึสติ ไม่หวังในรูป คือไม่ปรารถนาในรูปารมณ์อันมีสมุฏฐาน 4.